วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560

ขนมถั่วกวน

ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม
ขนมไทยดั้งเดิม มีส่วนผสมคือ แป้ง น้ำตาล กะทิ เท่านั้น ส่วนขนมที่ใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน นั้น มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (ท้าวทองกีบม้า) หญิงสาวชาวโปรตุเกส เป็นผู้คิดค้นขึ้นมา
ขนมไทยที่นิยมทำกันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ ก็คือขนมจากไข่ และเชื่อกันว่าชื่อและลักษณะของขนมนั้นๆ เช่น รับประทานฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกันยืดยาว มีอายุยืน รับประทาน ขนมชั้นก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน รับประทาน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เจริญ รับประทานขนมทองเอก ก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น
ในสมัยรัชกาลที่ 1 มีการพิมพ์ตำราอาหารออกเผยแพร่ รวมถึงตำราขนมไทยด้วย จึงนับได้ว่าวัฒนธรรมขนมไทยมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรก ตำราอาหารไทยเล่มแรกคือแม่ครัวหัวป่าก์
ในสมัยต่อมาเมื่อการค้าเจริญขึ้นในตลาดมีขนมนานาชนิดมาขาย และนับว่าเป็นยุคที่ขนมไทยเป็นที่นิยม

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาของขนมถั่วกวน

ข้าวเม่า

ข้าวเม่า
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มา ข้าวเม่า

ข้าวเม่ามีทั้งข้าวเม่าข้าวเหนียว ข้าวเจ้าและข้าวเหนียวดำ โดยที่นิยมมากที่สุดคือข้าวเม่าข้าวเหนียว แบ่งได้เป็น 3 แบบ คือ ข้าวฮ่างหรือข้าวเม่าอ่อนทำจากเมล็ดข้าวสีเขียวจัด ข้าวเม่าแบบเขียวอ่อน ทำจากข้าวห่ามที่เปลือกเป็นสีเขียวเข้ม ข้าวเม่าขาวนวล ทำจากข้าวเกือบแก่ เปลือกเขียวอมน้ำตาล
พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด
ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มา ข้าวเม่า

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มา ข้าวเม่า

ขนมผิง


ขนมผิง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมผิง
ขนมผิงมีต้นกำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกส โดยหญิงสาวที่มีชื่อว่า มารี กีมาร์ หรือท้าวทองกีบม้า ลูกครึ่ง โปรตุเกส-ญี่ปุ่น และเบงกอลที่เกิดในอาณาจักรอยุธยา หลังจากที่ทหารญี่ปุ่นชุดแรกได้เข้ามาเป็นทหารอาสาในแผ่นดินของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไม่นานนักนางมารี กีมาร์ ก็ได้เข้ารับราชการในตำแหน่งหัวหน้าห้องเครื่องต้น และได้สอนการทำขนมหวาน อาทิ ทองหยอด ฝอยทอง และขนมผิง ให้กับผู้ที่ทำงานอยู่ใกล้ชิดกับเธอและสาวๆเหล่านั้นก็ได้นำสูตรขนมออกมาถ่ายทอดต่อไป

ขนมผิงโบราณ
ขนมผิงในสมัยก่อนจะมีรสหวาน กลิ่นหอมที่ยั่วยวนใจ สีน้ำตาล และเมื่อรับประทานจะละลายในปากทันที ซึ่งต่างกับในสมัยปัจจุบันที่ทำสีสันเพิ่มเติม อาทิ สีชมพู สีเขียว และสีเหลือง นอกจากนั้นเนื้อแป้งยังแข็งขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งนี้ก็เพราะว่าป้องกันไม่ให้ขนมผิงที่บรรจุห่อขายนั้นแตกหักได้ง่าย แต่เดิมนั้นขนมผิงจะถูกบรรจุอยู่ในโหลแก้วเล็ก ๆ และประดับด้วยโบว์ เพื่อใช้เป็นของขวัญใน วันปีใหม่ หรือ วันแห่งความรัก
พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด
ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมผิง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมผิง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมผิง

ขนมไข่

ขนมไข่
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมไข่

นิยมกันทั่วทุกภาคของประเทศไทยเช่นภาคกลางภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคเหนือและส่วนใหญ่มักจะทำเป็นของฝาก ซึ่งเรียกกันว่าขนมไข่อบโบราณหรือขนมไข่โบราณสูตรต้นตำหรับ ภาคใต้นั้นก็เรียกว่าขนมไข่เช่นกันแต่คนส่วนใหญ่ภาคใต้นั้นนับถือศาสนาอิสลามร้อยละ ๘๐ และมีพื้นที่ติดชายแดนมาเลเซียซึ่งมีคนพูดภาษามลายูจึงทำให้บางพื้นที่เรียกขนมไข่ว่า ขนมบูหลู ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษามลายู ภาคใต้มักใช้ขนมไข่ในวันสำคัญต่างๆของทั้งศาสนาพุทธในเทศกาลงานสารทเดือน ๑๐ งานขึ้นบ้านใหม่ และศาสนาอิสลามในวันฮารีรายอส่วนใหญ่เป็นต้น

พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด
ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมไข่

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมไข่

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ขนมถ้วย

ขนมถ้วย
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมถ้วย

ขนมถ้วยตะไล คนสมัยนี้ส่วนใหญ่จะเรียกว่า “ขนมถ้วย”เฉย ๆ ขนมถ้วยตะไล นี้เป็นขนมไทยโบราณอีกชนิดหนึ่งที่หารับประทานได้ไม่ยากนัก เพราะมีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยาก วัตถุดิบก็หาได้ง่าย คือ แป้งข้าวจ้าว น้ำตาลมะพร้าว หรือน้ำตาลโตนด กะทิ เกลือโดยมีวิธีการขั้นตอน ๒ ข้อนตอน คือขั้นตอนแรกการทำตัวขนม โดยใช้แป้งข้าวจ้าว ผสมน้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลโตนด ใส่ถ้วยตะไล ประมาณครึ่งถ้วยนำไปนึ่งให้สุก ยกลงพักไว้ขั้นตอนที่สองขั้นตอนการทำหน้าขนมถ้วย ใช้แป้งข้าวจ้าวผสมกะทิ และเกลือ ชิมรสมันเค็มนำไปหยอดหน้าขนมถ้วยที่นึ่งส่วนตัวไว้แล้ว นำไปนึ่งให้สุก
ขนมถ้วยตะไล ที่อร่อย นั้น ตัวขนมจะมีรสหวานหอมน้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลโตนดและไม่แข็งกระด้าง ส่วนหน้าขนมต้องมีรสมันด้วยกะทิและมีรสเค็มนิดหน่วย และที่อำเภอท่ามะกา นางยิ่วฟ้า วงษ์ศิลป์ เป็นผู้ที่มีฝีมือในการทำขนมถ้วยตะไล ได้อร่อยมากถ้าอยากชิม ประมาณ สิบเอ็ดโมงเช้า นางยิ่วฟ้า จะเข็นรถมาจอดขายอยู่ที่ขางธนาคารกรุงไทย สาขาท่ามะกา อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี


พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด
ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมถ้วย



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมถ้วย

ขนมต้ม

ขนมต้ม
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

เป็นขนมที่มีหลักฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เข้ามาพร้องกับศาสนาพราหมณ์และลัทธิความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้า โดยเชื่อกันว่าพระพิฆเนศโปรดขนมนี้มาก ครั้งหนึ่งเสวยเข้าไปจนเต็มพุง เมื่อขี่หนูกลับวิมาน ระหว่างทางหนูมาเจองู ตกใจจึงหยุดทันที พระพิฆเนศตกจากหลังหนู พุงแตก พระพิฆเนศเสียดายขนมจึงกอบเข้าใส่พุงใหม่แล้วเอาซากงูที่ตีตายแล้วมาพันพุงไว้ แล้วจึงกลับไปวิมาน  ต่อมาได้มีบทบาทสำคัญในพิธีบวงสรวงเทวดา ในพิธีกรรมต่างๆ เช่น ยกเสาเอก ตั้งศาลพระภูมิ ในประเพณีสู่ขอแต่โบราณในบางท้องที่ใช้ขนมต้มด้วย ดังมีเพลงพวงมาลัยร้องเล่นว่า
พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด

ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมต้ม

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมต้ม


สังขยาฟักทอง


สังขยาฟักทอง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมสังขยาฟักทอง
 สังขยา หรือที่เรียกในภาษามาเลย์ว่า ศรีกายา หรือกายา เป็นขนมนึ่งทำจากกะทิและน้ำตาล พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ เช่นอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์กายาหรือศรีกายา (มาจากคำว่าร่ำรวยในภาษามาเลย์) เป็นขนมที่ทำจาก กะทิ ไข่เป็ดหรือไขไก่ ซึ่งขยำให้เข้ากันด้วยใบเตย ปรุงรสหวานด้วยน้ำตาล มีจุดกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพราะใช้เครื่องปรุงที่พบมาในท้องถิ่นคือน้ำตาลมะพร้าวและใบเตย กายายังใช้รับประทานร่วมกับขนมอื่น เช่น pulut tekan ซึ่งเป็นข้าวเหนียวนึ่งที่ย้อมให้เป็นสีม่วง pulut seri muka ข้าวเหนียวนึ่งที่ย้อมให้เป็นสีเขียวด้วยใบเตยฟิลิปปินส์สังขยาในฟิลิปปินส์ทำจากกะทิ และน้ำตาลหรือกากน้ำตาลไทยสังขยาในไทยเป็นขนมที่จัดอยู่ในกลุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกส นิยมรับประทานกับข้าวเหนียว หรือใส่ในฟักทอง เผือกหรือมะพร้าว แล้วนำไปนึ่ง เป็นคนละชนิดกับสังขยาที่กินกับขนมปังกัมพูชาสังขยาในกัมพูชา ลักษณะคล้ายสังขยาในประเทศไทย นิยมปรุงกับฟักทองแบบสังขยาฟักทอง

พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด

ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมสังขยาฟักทอง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมสังขยาฟักทอง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมสังขยาฟักทอง

ขนมไข่เหี้ย

ขนมไข่เหี้ย
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมไข่เหี้ย

 เป็นชื่อเดิมที่ชาวพื้นบ้านสุพรรณบุรี และ ภาคกลาง ใช้เรียกขนมที่แม่ผมทำขาย เป็นขนมแป้งข้าวจ้าวผสมข้าวเหนียว ลูกกลม ใส้ถั่วเขียวผสมมะพร้าว ทอดแล้วฉาบน้ำตาลทรายเกร็ดกรอบ ต่อมาเห็นว่าชื่อไม่สุภาพเลยเรียกกันใหม่ว่า "ไข่หงส์" ผมไม่ทราบที่มาที่ไปของพัฒนาการของชื่อขนมไข่เหี้ย-ไข่หงส์ นี้ แต่ที่ตลาด อ.สามชุก ผมเริ่มใช้คำว่าไข่หงส์ตามที่แม่แนะนำนับจากประมาณปี 2500 เป็นต้นมา ผมเคยปรึกษาคุณสมัคร สุนทรเวช เรื่องนี้ และเคยหาเหคุผลข้อมูลถกเถียงกันอย่างสนุก คุณสมัคร เคยเขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ "ชิมไป...บ่นไป" ของท่าน โดยยืนยันว่า "ไข่หงส์ กับ "ไข่เหี้ย" ต่างกัน แต่ตอนหลังผมสอบถามผู้อาวุโสผ่านรายการวิทยุ "โลกยามเช้า" ของผมในตอนนั้น (ปีที่หนังสือ "ชิมไป...บ่นไป" พิมพ์ออกจำหน่ายครั้งแรก) ได้คำตอบที่ยืนยันได้จนคุณสมัครยอมรับว่าเรื่องที่แม่ผมบอกถูกต้องแล้ว เหมือนกับผู้อาวุโสหลายท่านจากหลายจังหวัดที่จดหมายชี้แจงมา 
เรื่องนี้สนุกดี ทำให้ผมเคารพ คุณสมัคร สุนทรเวช มาก ที่ท่านเป็นคนกันเอง ยินดีโต้เถียงและฟังเหตุผลและยอมแก้เมื่อพบว่าข้อมูลผู้อื่นถูกต้องกว่า แต่กระนั้นก็ตามผมก็ยังเชื่อว่าอาจเป็นได้อย่างที่คุณสมัครบอกว่าเคยจำได้ว่ามีขนมแป้งบางนึ่งมีไส้รูปทรงวงรีและนุ่มเรียกว่า "ไข่เหี้ย" ส่วน "ไข่หงส์" ในความทรงจำของคุณสมัครนั้นก็คือขนม "ไข่หงส์" ที่รู้จักกันทั่วไปในปัจจุบัน เป็นขนมชนิดเดียวกันที่ชาวสุพรรณเคยเรียกว่า "ไข่เหี้ย" ก่อนจะเปลี่ยนชื่อใหม่ให้สุภาพขึ้น
ผมได้ให้พี่สาวและน้องสาว ที่ อ.สามชุก ช่วยเรียบเรียงและบันทึกสูตรขนม "แม่แม้น อ่อนวิมล" ทั้งหมดไว้นานราว 20 ปีแล้ว เพื่อเตรียมพิมพ์แจกในงานศพของผม มีทั้งขนมไข่เหี้ย-ไข่หงส์ ขนมถ้วย ขนมถ้วยฟู ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมใส่ไส้ กล้วยแขก กล้วยทอด ข้าวเม่าทอด ขนมบ้าบิ่น ฯลฯ เมื่อถึงเวลาที่ผมตาย ซึ่งคาดว่าคงจะตายราวๆอายุ 60+ แต่ตอนนี้ผมอายุ 61-62 ปีแล้ว ยังไม่ตาย ก็เลยต้องรอเวลาพิมพ์แจกอีกสักหน่อย หากถึงงานศพผมเมื่อไรเชิญไปรับแจกได้ วัดที่กำหนดไว้ว่าจะเป็นวัดที่เผาศพของผม คือ วัดวิมลโภคาราม ตลาดสามชุก สุพรรณบุรี 

พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด


ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมไข่เหี้ย

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมไข่เหี้ย

ขนมไข่หงส์

ขนมไข่หงส์
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ขนมไข่หงส์

ขนมไข่หงส์ เมนูขนมหวานไทย แสนอร่อย รสชาติหวานมัน สีเหลืองกรอบ กรอบนอกนุ่มใน หอมอร่อยมาก เรามีเคล็ดลับคือ นำถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก นำมาแช่น้ำค้างคืน จากนั้นนำมานึ่งให้สุก แล้วจากนั้นนำมาบด แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนๆ จากนั้นผสมแป้งแล้วนวดให้เหนียว จากนั้นนำมาปั้นหุ้มไส้ให้สนิท จากนั้นนำมาคลุกกับงาให้ทั่วๆ จากนั้นนำไปทอด ในน้ำมันร้อนๆ ทอดให้สุกเหลืองกรอบ จากนั้นตักสะเด็ดน้ำมัน พร้อมจัดเสิร์ฟ ขนมไข่หงส์หอมๆ รสชาติหวานมัน หวังว่าทุกท่านคงอร่อย กับขนมไข่หงส์
 พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด

ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ขนมไข่หงส์



รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ขนมไข่หงส์



ขนมบ้าบิ่น


ขนมบ้าบิ่น
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ขนมบ้าบิ่น


              ขนมนี้เมื่อในสมัยรัชกาลที่ 5 เคยมีคนเขียนไปถาม ก.ศ.ร.กุหลาบ เอดิเตอร์หนังสือสยามสมัยประเภท ว่าทำไมจึงเรียกขนมชนิดนี้ว่าขนมบ้าบิ่น ก.ศ.ร.กุหลาบตอบว่าที่เรียกว่าอย่างนี้ เพราะเมื่อก่อนนั้น "ป้าบิ๋น" แกเป็นคนทำขึ้น เลยเรียกว่า "ขนมป้าบิ๋น" ต่อมาเลยเรียกเพี้ยนเป็น "ขนมบ้าบิ่น"

         ที่มาของชื่อ "บ้าบิ่น" อีกสายมาจาก ไพโรจน์ บุญผูก นักเขียนสารคดี ซึ่งให้ความเห็นแย้งว่า ขนมบ้าบิ่นที่เคยได้ยินคนพูดว่าชื่อมาจากคุณป้าบิ่นต้นตำรับ ฟังดูแล้วเป็นคำอธิบายที่ง่ายเกินไป ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ เพราะดูจากลักษณะของขนมบ้าบิ่นแล้วน่าจะได้มาจากต่างประเทศ จึงค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต พบว่าที่โปรตุเกสมีขนมชื่อ "เกลชาดาซ เดอ กรูอิงบรา" (Queijadas de Coimbra) ซึ่งใช้เนยแข็ง ส่วนบ้านเราใช้มะพร้าวแทน
      พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด

ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ขนมบ้าบิ่น

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


ขนมหม้อแกง


ขนมหม้อแกง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมหม้อแกง


ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นับว่าเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดของราชอาณาจักรอยุธยา เพราะเป็นยุคที่ไม่มีศึก สงคราม อีกทั้งยังมีคณะทูต และบาทหลวงจากประเทศต่างๆ เข้ามาเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับอาณาจักรอยุธยาเป็นจำนวนมาก ในเวลานี้เองมีขุนนางผู้หนึ่งชื่อคอนสแตนติน ฟอลคอน ผู้ซึ่งเป็นคนฉลาด หลักแหลม และมีไหวพริวในด้านการค้ามากกว่าพ่อค้าใดๆทั้งหมด จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ดำรงตำแหน่ง พยุหเสนา และเป็นตัวกลางทางด้านการค้าของอาณาจักรอยุธยาและประเทศฝรั่งเศส ต่อมาได้แต่งงานกับนางมารี กีมาร์ หรือ ท้าวทองกีบม้า หลังจากที่พระเพทราชาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เนื่องจากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมีอาการประชวนหนัก พระเพทราชาจึงได้สั่งประหารชีวิตพระยาวิชาเยนทร์ในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2231 ทำให้ท้าวทองกีบม้าถูกนำตัวไปจำคุกเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี จึงถูกปล่อยตัว แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องทำขนมหวานมาส่งในวังตามอัตราที่กำหนดไว้ ด้วยเหตุที่ว่าท้าวทองกีบม้ามีชื่อเสียงในด้านการทำอาหารคาวหวาน เหตุการณ์ในครั้งนี้นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนโฉมหน้าของขนมไทยครั้งสำคัญ เพราะท้าวทองกีบม้าได้เริ่มทำขนมที่ใช้ไข่มาเป็นส่วนประกอบหลัก อาทิ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมผิง ขนมพลขนมโปร่ง ขนมทองม้วน ขนมสัมปันนี และขนมหม้อแกง ด้วยรสชาติของไข่และน้ำตาลซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของขนมหม้อแกง ทำให้ขนมหม้อแกงได้รับความนิยมชมชอบจากชนชั้นสูงในวัง และได้รับการขนานนามว่า ขนมกุมภมาส
ต่อมาเมื่อลูกมือในบ้านของท้าวทองกีบม้าได้แต่งงาน ก็ได้นำสูตรและวิธีการทำขนมหม้อแกงออกมาถ่ายทอด ทำให้ชาวบ้าน คนธรรมดา ได้มีโอกาสรู้จักกับขนมหม้อแกง
พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด


ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมหม้อแกง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมหม้อแกง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมหม้อแกง


ข้าวเหนียวเปียกลำใย

ข้าวเหนียวเปียกลำใย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาข้าวเหนียวเปียกลำใย
เป็นขนมที่กินแล้วช่วยดับร้อน หวานเย็นชืนใจ  เป็นขนมที่ให้กับครอบครัวใหญ่ที่ขึ้นมาจากทำไร่ ไถ่นา 
พอได้กินก็มีแรงอีกครั้ง ทำให้หมายเหนื่อย
พิกัด  หากินได้ตามท้องตลาด

ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาข้าวเหนียวเปียกลำใย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาข้าวเหนียวเปียกลำใย


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

สาคู

สาคู
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
เป็นขนมหวานไทยอีกประเภทหนึ่ง ทำง่ายและต้นทุนต่ำ สาคูเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง เมื่อนำมาต้มกับน้ำจะพองตัว ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย อาจใส่ส่วนผสมอื่นเช่น เผือก ลำไย ข้าวโพด เป็นต้น
 พิกัด    หากินได้ถามท้องตลาด

ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 



รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง























ข้าวต้มมัด

ข้าวต้มมัด
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมข้าวต้มมัด
ข้าวต้มมัด หรือ ข้าวต้มผัด เป็นขนมชนิดหนึ่งที่ทำด้วยข้าวเหนียวผัดกับกะทิ แล้วนำไปห่อด้วยใบตองหรือใบมะพร้าวอ่อน ใส่ไส้กล้วย นำไปนึ่งให้สุก ทางภาคใต้ใช้ข้าวเหนียวกับน้ำกะทิ ห่อด้วยใบพ้อ เรียกห่อต้ม ถ้าห่อด้วยใบมะพร้าว และมัดด้วยเชือกเรียกห่อมัด ขนมแบบเดียวกับข้าวต้มยังพบในประเทศอื่นอีก เช่นในฟิลิปปินส์เรียก อีบอส หรือ ซูมัน ที่แบ่งย่อยได้หลายชนิดเช่นเดียวกับข้าวต้มมัดของไทย
ข้าวต้มมัดอีกชนิดหนึ่งเรียก ข้าวต้มลูกโยน เป็นขนมที่ใช้ในเทศกาลออกพรรษา ห่อด้วยใบพ้อหรือยอดมะพร้าวเป็นรูปรี ข้างในเป็นข้าวเหนียวผสมถั่วดำไม่มีไส้ ผูกเข้าด้วยกันเป็นพวงแล้วนำไปต้ม ส่วน ข้าวต้มมัดไต้ เป็นข้าวต้มที่ห่อแล้วมัดให้มีลักษณะเหมือนไต้ที่ใช้จุดไฟ ไส้เป็นถั่วทองโขลกกับรากผักชี กระเทียม พริกไทย ใส่หมู มันหมู ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำ น้ำตาลทราย ห่อด้วยใบตองเป็นแท่ง มัดเป็นเปลาะ 4-5 เปลาะ แล้วนำไปต้ม บางท้องที่ใช้เป็นขนมไหว้เจ้าในเทศกาลตรุษจีนและสารทจีนด้วย
        พิกัด    หากินได้ถามท้องตลาด

ได้เวลาหาขนมอร่อยกินกันแล้ว เอามาฝากหลายร้าน หลายประเภท ใครชอบแบบไหนไปลองหามาชิมกันดู แล้วจะรู้ว่า ขนมไทยก็ไม่แพ้ขนมชาติใดในโลกค่ะ 



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมข้าวต้มมัด

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมข้าวต้มมัด

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ที่มาขนมข้าวต้มมัด